Soneva Jani รีสอร์ทในฝัน Ultra-Luxury หรูระดับโลกที่ใคร ๆ ก็พูดถึง
- Paigunna
- 26 ก.ค.
- ยาว 2 นาที

Soneva Jani เป็นรีสอร์ท Ultra-Luxury หรูระดับโลก ที่ไม่ใช่แค่รีสอร์ท แต่เป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับ ที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับปรัชญา "No News, No Shoes" และความยั่งยืนได้อย่างลงตัว ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่สวยที่สุดและมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใครแน่นอน
รีสอร์ตที่ออมนัทใฝ่ฝันว่าสักครั้งในชีวิตอยากจะมาสัมผัสด้วยตัวเอง ในที่สุดความฝันที่จะได้สัมผัสสวรรค์บนผืนน้ำสีเทอร์ควอยซ์ของมัลดีฟส์ก็เป็นจริงแล้วค่ะ มาอ่านรีวิวโพสต์นี้ไปพร้อม ๆ กับชมภาพ สวย ๆ ของที่นี่ด้วยกันนะ
เดินทางด้วย Seaplane ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจากสนามบินมาเล่ ซึ่งพอใกล้ถึงก็รู้ทันที่ว่านี่แหละคือ Soneva Jani ภาพตรงหน้าเหมือนอณาจักรของวิลล่าที่เป็นเอกลักษณ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นน้ำทะเลสีฟ้าสดอันกว้างใหญ่

ที่นี่คืออาณาจักรแห่งการปลดปล่อย ซึ่งมีปรัชญา 'No News, No Shoes' ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้าง แต่คือวิถีชีวิตที่แท้จริง เราถอดรองเท้าตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึง และพร้อมทิ้งข่าวสารทั้งหมดไว้เบื้องหลัง เพื่อได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง ทุกวิลล่ามี "Barefoot Guardian" หรือบัตเลอร์ส่วนตัวที่ดูแลทุกอย่างตั้งแต่การจัดตารางกิจกรรม, จองห้องอาหาร, ไปจนถึงการตอบคำถามทุกอย่างระหว่างการเข้าพัก นั่นเอง
Water Retreats
ออมนัทพักที่ห้อง 1 Bedroom Water Retreats with Slide วิลล่าขนาด 555 ตร.ม. เน้นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (eco-friendly) และความยั่งยืน โดยพยายามรักษาสภาพธรรมชาติของเกาะไว้ให้มากที่สุด
สำหรับ 1 Bedroom Water Reserve with Slide ราคาเริ่มต้นโดยประมาณจะอยู่ที่ $2,700 - $3,800 USD ต่อคืน (หรือประมาณ 100,000 - 140,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลา)

จุดเด่นและสิ่งอำนวยความสะดวก
สไลเดอร์ส่วนตัวสู่ลากูน : นี่คือไฮไลต์ที่ทำให้โซเนวาโด่งดังไปทั่วโลก! เราสามารถสไลด์ลงจากชั้นบนของวิลล่าสู่ผืนน้ำทะเล เป็นความสนุกที่ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล และสร้างความตื่นเต้นได้ตลอดวัน
หลังคาห้องนอนเปิด-ปิดได้ : จินตนาการถึงการนอนดูดาวพราวระยับเต็มท้องฟ้าจากเตียงนอนของเราเอง! หลังคาที่สามารถเปิดปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าในห้องนอนหลัก ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติและแสงดาวยามค่ำคืนได้อย่างเต็มที่ เป็นประสบการณ์โรแมนติกที่ไม่มีใครเหมือน
สระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่ : วิลล่าทุกหลังมีสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ส่วนตัวที่กว้างขวางทอดยาวไปกับวิวทะเล
การออกแบบที่เปิดโล่งและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ: วิลล่าถูกออกแบบให้เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวทะเลจากทุกมุม ด้วยกระจกบานใหญ่และพื้นที่กลางแจ้งที่กว้างขวาง รวมถึงระเบียงอาบแดดขนาดใหญ่ที่มีเตียงอาบแดดและเปลตาข่ายให้นอนเล่นชมวิว
ห้องน้ำกลางแจ้ง : สัมผัสประสบการณ์การอาบน้ำที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ภายในห้องน้ำที่กว้างขวาง มีทั้งพื้นที่อาบน้ำกลางแจ้ง กึ่งกลางแจ้ง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและใกล้ชิดกับธรรมชาติสุด ๆ
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
- ห้องนอนหลัก : ขนาดกว้างขวาง พร้อมเตียงคิงไซส์ และห้องแต่งตัว
- ห้องนั่งเล่น/รับประทานอาหาร : พื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการพักผ่อนและนั่งทานอาหารภายในวิลล่า
- ห้องครัวขนาดเล็ก/มินิบาร์: มีอุปกรณ์ชงกาแฟ/ชา และตู้เย็นพร้อมเครื่องดื่มและของว่าง
กิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย
หอดูดาว (Observatory) : เป็นจุดเด่นที่ไม่มีโรงแรมไหนมี ที่นี่มักเชิญนักดาราศาสตร์ระดับโลกมาบรรยาย และแขกสามารถชมดาวเคราะห์และเนบิวลาได้อย่างชัดเจน
โรงหนังไร้เสียง (Cinema Paradiso) : โรงภาพยนตร์กลางแจ้งแห่งแรกในมัลดีฟส์ที่แขกจะได้รับหูฟังบลูทูธเพื่อชมภาพยนตร์กลางทะเล
Cinema Paradiso The Den (Kids' Club) : เป็นหนึ่งในโซนสำหรับเด็กที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ มีกิจกรรมต่าง ๆ และสนามเด็กเล่นที่ออกแบบมาเพื่อเด็ก ๆ
Soneva Soul (Spa) : สปาที่เน้นการบำบัดแบบองค์รวม มีบริการนวด สปา และทรีทเมนท์ต่าง ๆ
Water Sport : มีกิจกรรมทางน้ำมากมายทั้งแบบมีเครื่องยนต์และไม่มีเครื่องยนต์ เช่น คายัค, Stand-up Paddleboard, วินด์เซิร์ฟ, คาตามารัน รวมถึง SEABOB และ e-board
ประสบการณ์การรับประทานอาหาร : มีห้องอาหารและบาร์หลากหลายรูปแบบ
- So Fresh (อาหารออร์แกนิก, พิซซ่าอบไม้)
- So Starstruck (รับประทานอาหารใต้แสงดาว)
- Zuhair's Island (อาหารมัลดีฟส์บนชายหาดส่วนตัว)
- Overseas by Mathias Dahlgren นำเสนอแนวคิดการทำอาหารที่เน้น "อาหารทะเล พืชผัก และวัตถุดิบจากธรรมชาติ" โดยได้รับแรงบันดาลใจจากท้องทะเลอินเดียที่อยู่รายล้อม และผลิตผลออร์แกนิกจากสวนของรีสอร์ทเอง เชฟ Mathias Dahlgren ยึดหลักปรัชญา "Natural Cuisine" ซึ่งเน้นการดึงรสชาติแท้จริงของวัตถุดิบออกมาให้โดดเด่นที่สุด เมนูส่วนใหญ่ของ Overseas by Mathias Dahlgren จะเน้นไปที่:
Pescatarian: อาหารทะเลที่สดใหม่ และจับมาอย่างยั่งยืนจากน่านน้ำใกล้เคียง
Vegetarian: เมนูมังสวิรัติที่หลากหลายและเต็มไปด้วยรสชาติ
Plant-based: เมนูที่เน้นพืชเป็นหลัก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ในการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ
นอกจากเมนู A La Carte แล้ว จุดเด่นที่หลายคนแนะนำคือ Chef's Choice tasting menu ซึ่งเป็นคอร์สอาหารที่เชฟคัดสรรมาเป็นพิเศษในแต่ละวัน โดยจะเปลี่ยนแปลงไปตามวัตถุดิบที่ดีที่สุดในขณะนั้น เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางของรสชาติที่น่าประทับใจ ทั้งจานเดี่ยว จานแบ่ง และเมนูซิกเนเจอร์ที่ปิดท้ายด้วยของหวานอันเลิศรส
- So Guilty (ไอศกรีมและช็อกโกแลตโฮมเมด ที่มาทานได้ฟรีตลอดวัน! ชอบมาก)
- Crab Shack เมนูหลักคือ ปู! ที่นี่เน้นการนำเสนอเมนูปูที่หลากหลาย โดยเฉพาะปูที่จับมาอย่างยั่งยืนจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลกมาผัดกับซอสสูตรพิเศษ ยังมีเมนูอาหารทะเลอื่นๆ ให้เลือกสรร เช่น กุ้ง ปลาหมึก และเมนูสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนบางอย่าง รวมถึงอาหารทะเลอื่นๆ ที่ปรุงด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น ย่าง อบ หรือผัดต่างๆ

สรุป Soneva Jani
ประสบการณ์ที่คุ้มค่าทุกสตางค์ แม้ว่าราคาการเข้าพักที่ Soneva Jani จะอยู่ในระดับสูง แต่ประสบการณ์ที่คุณจะได้รับนั้นคุ้มค่าเกินราคา การพักผ่อนที่หรูหรา เป็นส่วนตัวการบริการที่ไร้ที่ติ สิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่น และกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น เป็นจุดหมายปลายทางในฝันสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากโลกภายนอกและดำดิ่งสู่ความงามของมัลดีฟส์ในรูปแบบที่หรูหรา มีสไตล์ และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง สมกับที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่สวยที่สุดและมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใครจริง ๆ
Lightroom Preset โทนสีแต่งรูปในรีวิวนี้
ออมนัทใช้โทนสีจาก 4 Elements Collection และ Beach Vibes Collection กดแอดไลน์สั่งซื้อตรงนี้ได้เลยน้า
ความคิดเห็น