Hokkaido Green Season ขับรถเที่ยวฮอกไกโดตะวันช่วงฤดูร้อน

Paigunna
24 ก.ย.
ยาว 3 นาที

อัปเดตเมื่อ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"นี่คือญี่ปุ่นแบบอะไรใหม่ ๆ ในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน" บอกลยว่าทริปนี้มัน Unique สุด ๆ กับ 22 Locations ขับรถเที่ยวโซนฮอกไกโดตะวันออก Hokkaido Green Season หลากหลายอารมณ์มากค่ะ รวบรวมทั้งกิจกรรม ที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ในฤดูแห่งการออกไปสูดกาศสดชื่นท่ามกลางธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์

ออมนัทเพิ่งกลับมาก็รีบมาอัพเดตกันเลย เพราะทริปนี้ประทับใจและไม่คิดว่าจะได้เที่ยวฮอกไกโดในมุมใหม่บ้าง เดินทางเดือนสิงหาเป็นช่วง High season ของฤดูนี้แล้วค่ะ การเดินทางเรามีนั่งเครื่องบิน Domestic Flight จากซัปโปโรมาลงกลางภูมิภาค แล้วเริ่มขับรถเที่ยวไปทางตะวันออก ตั้งแต่เมือง Sapporo-Nakashibetsu Shiretoko-Rausu-Kushiro-Obihiro-Chitose นั่นเองค่า

มีทั้งที่พัก กิจกรรมที่ควรทำ อาหารและของเด็ดแต่ละเมือง ซึ่ง Highlight ทั้งหมดจะสามารถทำได้เฉพาะในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ที่ออมนัทชอบมากที่สุดคือการได้ล่องเรือกลางทะเล เพื่อไปชมวาฬตามธรรมชาติ ที่เจอได้ทั้งวาฬเพชรฆาต วาฬหัวทุย แมวน้ำ โลมา เป็นต้น ได้ไปนั่งรถไฟสุดคลาสสิคที่จะเปิดให้สัมผัสได้ถึงปี 2026 แรร์ไอเทมสุด ไหนจะไปสัมผัสธรรมชาติแอนบริสุทธิ์หลายที่มาก เรียกว่าเห็นวิวทั้งภูเขา ทะเล ที่ราบลุ่มชุ่มน้ำ ทุกอย่างมันสดชื่นไปหมดเลย และของกินอร่อย ๆ อาหารทะเลสด ๆ ปลาดิบแบบฉ่ำ ๆ ปักหมุดให้ได้เที่ยวตามได้เลย บอกเลยว่าฮอกไกโดครั้งนี้...มีความสุขมาก!

จองรถเช่าราคาถูก ตรงนี้ ได้เลยค่ะ

ปักหมุดแต่ละเมืองให้เลยน้า ค่อย ๆ อ่านรีวิวแล้วตามรอยกันมาได้เลยค่า

01 Maoi Salud

ท่ามกลางไร่องุ่นที่เมือง Naganuma ที่นี่มีจุดเด่นคือไวน์โฮมเมดและน้ำองุ่นสด ๆ ให้ได้ชิม เค้ามีบริการจอง Private Terrace ในนั่งชมวิวท่ามกลางบรรยากาศรอบ ๆ ที่เป็นฟาร์มกว้าง สามารถเห็นเครื่องบินบินผ่านไร่ด้วยนะ แนะนำให้มาช่วงเย็น พระอาทิตย์สวยอยู่ตรงน้า อากาศจะสบายกว่าช่วงบ่ายค่ะ

Evening sky private terrace คนละ ¥5,000

02 Farm Restaurant Harvest

ร้านอาหารในฟาร์มท้องถิ่น เสิร์ฟเมนูเรียบง่ายแต่วัตถุดิบคือสดจริง เช่น สลัดผักตรงจากแปลง

หรือสเต๊กเนื้อฮอกไกโด เมนูแนะนำคือ Hambrug เนื้อย่างเตาถ่านหอม ๆ เสิร์ฟคู่กับมันบดและผักต่าง ๆ ที่มาจากฟาร์มออแกนิค ผักสดกรอบมาก ยิ่งเป็นตัวข้าวโพดคือหวานฉ่ำแบบให้ที่หนึ่งไปเลย

03 Chitose Aquarium

อควาเรียมแห่งเดียวในฮอกไกโด ที่ชมปลาน้ำจืดในแม่น้ำจริง ๆ ผ่านช่องกระจกใต้น้ำ มีโซนจัดแสดงปลาแซลมอนหลากสายพันธุ์เลยค่ะ ถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–ต.ค.) จะเห็นปลาแซลมอนนับพัน ว่ายทวนน้ำมาวางไข่แบบใกล้ ๆ

แนะนำว่าสามารถมาเที่ยวหลังจากบินถึงฮอกไกโด หรือก่อนบินกลับได้นะเพราะว่ามีร้านขายของฝากให้ชอปด้วยค่ะ

04 Karaksa Hotel

คืนแรกมานอนกันที่โรงแรมใจกลางเมืองซัปโปโร ที่เน้นความเรียบง่ายทันสมัย ห้องพักกะทัดรัดแต่ฟังก์ชันครบ ใกล้สถานีรถไฟ เดินทางสะดวกมาก และยังอยู่ติดกับ Tanukikoji Shopping Street แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังในซัปโปโรอีกด้วย

วิวห้องออมนัทเห็นชิงช้ากลางเมืองด้วยนะ ห้องพัก ประมาณ ¥20,000 ต่อคืน

ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ที่เพื่อน ๆ สามารถตักเมนูปลาดิบสด ๆ ทานได้แบบไม่อั้นเลย

05 Sapporo Olympic Museum

จัดแสดงเรื่องราวโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1972 ที่ซัปโปโร เคยเป็นเจ้าภาพ มีทั้งอุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้านักกีฬา และโซนจำลองให้ลองเล่น เกมจำลอง “สกีจั๊มป์ VR” เป็นไฮไลต์ คนญี่ปุ่นเองยังแนะนำ

และยังสามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวด้านบน คือพอไปยืนที่จุดปล่อยตัว ระดับความสูงมองแล้วไปแอบเสียวขาเหมือนกันนะ

ช่วงบ่ายของวันนี้เราออกจากตัวเมืองซัปโปโรกันแล้วค่ะ ซึ่งจะเดินทางด้วยการนั่ง Domestic Flight ไปลงที่ Nakashibetsu Airport ประมาณ 30 นาที แล้วเราก็มาที่ The Road to the Sky ถนนเส้นตรงยาวกว่า 28 กม. ที่สิ้นสุดบนเนินสูงเหมือนพุ่งเข้าไปในท้องฟ้า เป็นมุมถ่ายรูปสุดปังของ นักท่องเที่ยวสายขับรถเลยล่ะ

08 Ocean Road to Shiretoko

เส้นทางเลียบทะเล Okhotsk ได้วิวภูเขาและคลื่นกระทบฝั่งแบบเต็ม ๆ เหมาะขับช้า ๆ สูดอากาศทะเล

ด้านซ้ายก็จะเป็นฝั่งทะเลที่เชื่อมไปยังทะเลของรัฐเซียด้วยนะ ฤดูหนาวถ้ามีโอกาส อาจเจอ “ธารน้ำแข็งลอย” (drift ice) ด้วย

10 Shiretoko Goko Lakes

กลุ่มทะเลสาบ 5 แห่งกลางป่าดิบชื้น ในพื้นที่มรกดโลกอย่าง Shiretoko National Park มีเส้นทางเดินไม้และเส้นทางเดินป่า 3 ระดับให้เลือกค่ะ

11 Shiretoko Pass

ถนนบนภูเขาเชื่อมฝั่ง Utoro กับ Rausu เปิดเฉพาะ พ.ค.–ต.ค. วิวอลังการทั้งทะเล Okhotsk และภูเขา Rausu ในช่วงนี้ภูเขาเขียวขจีสบายตามาก ถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (ก.ย.–ต.ค.) วิวสวยอีกแบบค่ะ

12 Jyun no banya

ร้านอาหารท้องถิ่นใน Utoro เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง “北の国から 2002 遺言” (Kita no Kuni Kara 2002: The Will)

มีเมนูเด่นคือ “คิเคนด้ง” ข้าวหน้าปลาดิบสดใหม่จากชิเรโตโกะ ปลาอูนิ (หอยเม่น) ที่นี่สดมาก เพราะจับจากทะเลตรงหน้าเลยค่ะ ฉ่ำ หวาน อร่อยมากกกกก

13 Shiretoko Nature Cruise

เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ออมนัทเฝ้ารอเลย เราจะล่องเรือดูปลาวาฬสเปิร์ม โลมา วาฬเพชฌฆาต ฝูงนกชีออร์วอเทอร์ เป็นต้นค่ะ เราจะใช้เวลาประมาณ 2:30 ชั่วโมง มี 2 รอบต่อวัน 9:00 / 13:00 ค่าล่องเรือ ¥8,800 ต่อคน

ล่องเรือไปประมาณเกือบชั่วโมง แล้วรออยู่กลางทะเลสักแปป ครั้งนี้เราได้เจอวาฬหัวทุย หรือ วาฬเสปิร์มค่ะ ตามธรรมชาติเค้าจะว่ายขึ้นมาหายใจ แล้วก็มุดลองใต้น้ำไปประมาณ 45 นาที ถึงจะโผล่มาหายใจอีกรอบแล้วคือเป็นโมเมนท์แบบเฝ้ารอมาก ได้เห็นทั้งตอนพนน้ำ และหางเวลาว่ายลง ไปใต้ทะเลค่ะ ซึ่งฉากหลังคือเทือกเขาชิเรโทโกะและเกาะคุนาชิริ (หนึ่งในหมู่เกาะนอร์เทิร์นเทอริทอรี) ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

14 Norokko Train

รถไฟท่องเที่ยว Kushiro Station – Tōro Station ใช้เวลาประมาณ 40–50 นาที เป็นรถไฟโบราณ วิ่งเลียบแม่น้ำคุชิโระซึ่งเป็น พื้นที่ชุ่มน้ำใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด ระหว่างทางสามารถเจอสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยตามธรรมชาติ แนะนำให้ซื้อ Norokko Train pudding พุดดิ้งนมสด รสชาติเนียนละมุนอร่อยมาก

เริ่มเปิดบริการครั้งแรกในปี 1989 โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้โดยสาร ได้ชมวิวธรรมชาติของ Kushiro Shitsugen (ทุ่งชุ่มน้ำคุชิโระ) อย่างช้า ๆ และเต็มอิ่ม วิ่งเฉพาะช่วง ฤดูใบไม้ผลิ–ฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณ ปลายเม.ย.–ต.ค.) ค่ารถไฟ ¥680 ต่อเที่ยว

รถไฟวิ่งผ่าน Kushiro Wetlands ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นพื้นที่ Ramsar ที่ได้รับการคุ้มครอง วิวสองข้างทางมีทั้งทุ่งน้ำ, แม่น้ำคุชิโระ, ป่าชุ่มน้ำ และได้ชมสัตว์ป่าอย่างนกกระเรียนคูแดง

(red-crowned crane), กวางเอโซะ (Ezo deer), อินทรีทะเล เป็นต้นค่ะ

15 Kushiro Washo Market

ตลาดปลาชื่อดัง เมนูต้องลองคือ “Katte Don” ซื้อข้าวเปล่าแล้วเดินเลือกหน้าซาชิมิเอง ของเด็ดคือ “อูนิ” และ “โฮตาเตะ” สด ๆ จากทะเล

16 Hotel Nikko Northland Obihiro

โรงแรมใหญ่กลางเมืองที่อยู่ติดสถานีรถไฟ Obihiro Station เลยค่ะ สามารถเดินเล่นในเมืองได้สะดวกสุด ๆ

17 Hageten Obihiro

ร้านเก่าแก่กว่า 80 ปีเดิมเป็น ร้านเทมปุระเก่าแก่ จากเมือง Otaru ก่อนย้ายมาเปิดที่โอบิฮิโระ และหลังจากนั้นก็เริ่มเสิร์ฟ Butadon จนกลายเป็นเมนูแนะนำค่ะ

เมนูต้องสั่งแระจำเมืองนี้เลยก็คือ Butadon ใช้ส่วนเนื้อหมูส่วนสันใน (sirloin) จากโทกาจิ เนื้อนุ่มฉ่ำ ย่างไฟจนหอม เพิ่มรสชาติด้วย ซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ที่พัฒนามากว่า 70 ปี

18 Kitanoyatai

ย่านกินดื่มเล็ก ๆ มีร้านแผงลอยบรรยากาศอบอุ่น เหมือนได้ใช้ชีวิตแบบชาวโอบิฮิโระ บางร้านรองรับแค่ไม่กี่ที่นั่ง ควรไปหัวค่ำแล้วนั่งจิบเครื่องดื่มชิล ๆ ได้เลยค่ะ

19 Basha Bar

บาร์ที่ให้บริการ “รถม้า” วิ่งรอบเมืองโอบิฮิโระ ดื่มไปชมวิวไป ได้บรรยากาศย้อนยุคสุด ๆ บาร์รถม้า 2 ชั้น มีทั้งหมด 18 ที่นั่ง ชั้นล่าง 12 ที่นั่งแบบ indoor, ชั้นบน 6 ที่นั่งโล่งชมวิวเต็มตา

รถม้าคันนี้ลากโดย Musashi-koma (Musashi-koma-kun) ซึ่งเดิมเป็นม้าแข่ง Banei (ม้าแข็งแรงลากเลื่อนน้ำหนัก) ที่ปลดเกษียณมาแล้ว หันมาทำหน้าที่ใน Basha Bar แทนค่ะ เสิร์ฟ เบียร์คราฟต์ของท้องถิ่น, น้ำผลไม้ และ เมนูทานเล่นจาก Tokachi เช่น มันฝรั่งหรือชีส มี 3 รอบ: 18:00, 19:00, 20:00 ประมาณ ¥4,800/คน (รวมเครื่องดื่ม 1 แก้ว + ขนม)

20 Naitai Terrace

ตั้งอยู่บนเนินของ Naitai Kogen Farm ซึ่งเป็นฟาร์มสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ขนาดกว่า 1,700 เฮกตาร์ (เทียบเท่ากับสนาม Tokyo Dome ถึง 358 สนาม!) กว้างใหญ่ จนได้รับฉายาว่า “หลังคาของญี่ปุ่น” มีวัวเดินอย่างอิสระประมาณ 2,000 ตัว มีคาเฟ่ soft-serve ice cream ที่ทำจากนมสดของ Kamishihoro

ที่แนะนำเลยว่าต้องลองค่ะ นมสดละมุนมาก

ท่ามกลางวิวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บนความสูงประมาณ 800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้เห็นภาพของที่ราบโทคาจิและภูเขาอาคัง (Akan Mountains) ได้อย่างเต็มตา เปิดช่วงปลายเมษายน ถึงปลายตุลาคมเท่านั้นค่ะ

22 Portom International Hokkaido

โรงแรม 5 ดาวในสนามบิน New Chitose ตกแต่งหรูหราสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย ที่เดินเข้ามาแล้ว เหมือนได้ชมแกลลอรี่งานศิลปะไปในตัว

มีคอลเล็กชันศิลปะจัดแสดงทั่วโรงแรม ห้องพักเก็บเสียงดีมาก แม้จะอยู่ในสนามบินที่สามารถนอนชมเครื่องบินชึ้น-ลงรันเวย์ได้จากเตียง ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายค่ะ พักที่นี่สะดวกมา ติดกับทางเชื่อมเข้าเคาท์เตอร์

เช็คอินเดินไม่ถึง 5 นาทีเอง

จองรถเช่าราคาถูก ตรงนี้ ได้เลยค่ะ

Hokkaido Green Season มันดีมากกกก

ออมนัทได้เห็น ฮอกไกโดในมุมใหม่ ที่ต่างไปจากภาพจำเดิม ๆ ไม่ได้มีแค่เมืองซัปโปโร หรือทุ่งดอกไม้ แต่ยังมีทั้งเส้นทางธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของชิเรโตโกะ ถนน The Road to the Sky ที่ทอดยาวสุดสายตา ไปจนถึง ประสบการณ์เล็ก ๆ อย่างนั่งรถไฟ Norokko ชมวิวชุ่มฉ่ำของที่ราบลุ่มชุ่มน้ำอันกว้างใหญ่หรือชิมบูตะด้งต้นตำรับที่โอบิฮิโระ ได้ล่องเรือชมวาฬกับนกทะเลในธรรมชาติจริง ๆ ได้แวะคาเฟ่ ชิมอาหารอร่อย ๆ ของแต่ละเมืองและตลาดปลาท้องถิ่น ปิดท้ายด้วยวิวอลังการของ Naitai Terrace กลางธรรมชาติ

อันกว้างใหญ่ ทั้งหมดนี้เป็นอีกทริปที่ชอบมากเลยล่ะ